ไม่แย่สะทีเดียว เกมนี้เป็นเกมพ่ายแพ้นัดแรกของเรา ถึงจะเกมพ่ายแพ้ที่ย่อยยับแต่ก้ยังพอมีข้อดีข้อเสียอยู่บ้าง
ข้อดีคืออย่างน้อย เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังได้รู้ข้อบกพร่องของทีมในประสิทธิภาพของเกมรับเมื่อเจอเกมใหญ่ๆแบบนี้
ข้อเสีย เหล่าสาวก เดอะ ค็อป คงเสียขวัญกำลังใจไปไม่มากก็น้อย แต่อย่างว่าแหละครับ กีฬาก็ต้องมีแพ้มีชนะเป็นธรรมดา
เรามาดู 3 เรื่องที่น่าสนใจในเกมนี้กันดีกว่าครับ
3. สิถิติการทำประตู
-ในเกมนี้แมนฯซิตี้มีโอกาสยิงทั้งหมด 13 ครั้ง เข้ากรอบ10 ครั้ง เป็นประตู 5 ประตู
-ลิเวอร์พูลมีโอกาสยิง 7 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง 0 ประตู
จะเห็นได้ชัดเจนว่า เกมเมื่อคืนที่ผ่านมาแนวรุกของแมนฯซิตี้อันตราย และเฉียบคมมาก
2.เกมรับพังยับ
คลาวาน วันนี้มีโอกาศลงเป็น 11 ตัวจริง เนื่องจาก คล็อปป์ ต้องการพัก เดยัน ลอฟเลน หรือเหตุผลอะไร อันนี้เราก็ไม่แน่ใจ
คลาวาน ดูช้าไปสำหรับเกมใหญ่ จังหวะที่เบียดแย่งบอลกับ กาเบรียล ติดตามมาก ไม่น่าเชือว่าเขาจะแพ้เหลี่ยมแบบต้องร้องอุทานออกมาเป็นคำแสลงเลยทีเดียว และอีกหลาย ๆ จังหวะ ที่ทั้งเกือบเสียประตูและเสียประตู
เอาจริง ๆ ต่อให้เหลือ 10 คน ถ้าแผงกองหลังไม่แย่ คงไม่โดนถึง 5-0
ปัญหาคู่เซ็นเตอร์แบ็ค ยังแก้ไม่หายสักทีสำหรับ ลิเวอร์พูล ตลาดมกราคมนี้ คงต้องมีติดไม้ติดมือสักคนแล้วล่ะ
1.หัวใจสำคัญของ หงส์แดง
นาทีที่ 37 ซาดิโอ มาเน่ โดนใบแดงถูกไล่ออกจากเกมจากจังหวะ ยกเท้าสูงใส่ เอแดร์สัน
เชื่อว่าในจังหวะนี้คงมีหลายคนที่คิดต่าง แต่หากได้ดูภาพช้าแล้วจะเห็นได้ว่าจังหวะนี้ค่อนข้างอันตรายพอสมควร เหตุที่มาเน่โดนใบแดงก็ดูว่าน่าสมเหตุสมผลแล้ว
แต่หากมองในมุมของมาเน่ จะสังเกตเห็นได้จากแววตาของมาเน่เจตณา จะเล่นบอลชัดเจนไม่ทันเห็น เอแดร์สัน วิ่งออกมาตัดบอล ซึ่งสัญชาติญานของนักฟุตบอลมันก็จำเป็นต้องใช้เท้าเล่นบอลอยู่แล้ว
ถือว่าเป็นงานหนักของ เจอร์เก้นคล็อปป์ ที่จะไม่สามารถใช้งานมาเน่ได้ 3 เกม แต่เฉพาะในพรีเมียร์ลีก
แต่ถ้ามองแบบเข้าข้างตัวเองเลย คือดี ที่มาเน่จะได้พักเก็บตัวไว้เกมยุโรป ที่จะต้องเจอกับเซบีญ่า (ห้าๆ)
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น