เจอร์เก้น คล็อป กุนซือจอมเทคนิค "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อหลังจบเกมไล่ถล่มอาร์เซนอลไป 4-0 เผยความในใจเหตุพักมินโญเลต์
(คิดอย่างไรไปบ้างกับสิ่งที่ทีมได้แสดงให้เห็นวันนี้?)
"ฤดูกาลนี้จนถึงกระทั่งตอนนี้ เราได้เรียนรู้จากทุกๆฟอร์มการเล่น (ที่มีทั้งดีและไม่ดี) และจากทุกเกมเราได้ลงไปเล่น สิ่งต่างๆที่มันแตกต่างกันออกไป วัตฟอร์ด เกมนั้นนั้นมันไม่ได้แน่เท่าที่หลายๆคนมองมันเพราะมันไม่ได้จะเป็นชัยชนะง่ายๆเลยในการออกไปเยือนที่นั่น และอันที่จริงเราใกล้เคียงกับชัยชนะแล้ว แต่ในช่วงนาทีท้ายๆเราป้องกันกันต่ำเกินไป เพราะว่าเราต้องการที่จะรักษาผลการแข่งขันไว้ให้ได้ เราทำสิ่งนี้ได้ดีขึ้นในเกมที่ออกไปเยือนฮอฟเฟนไฮม์ซึ่งเป็นเกมที่ต้องไปลงเตะกับทีมที่แข็งแกร่งมากๆ และหลังจากนั้นเราก็สร้างฟอร์มการเล่นขึ้นมาต่อจากเดิมในเกมกับพาเลซ ใช่ครับ เราไม่ได้ยิงประตูได้มาก แต่ประตูชี้ขาดนั้นก็นับว่าเป็นประตู
"ฤดูกาลนี้จนถึงกระทั่งตอนนี้ เราได้เรียนรู้จากทุกๆฟอร์มการเล่น (ที่มีทั้งดีและไม่ดี) และจากทุกเกมเราได้ลงไปเล่น สิ่งต่างๆที่มันแตกต่างกันออกไป วัตฟอร์ด เกมนั้นนั้นมันไม่ได้แน่เท่าที่หลายๆคนมองมันเพราะมันไม่ได้จะเป็นชัยชนะง่ายๆเลยในการออกไปเยือนที่นั่น และอันที่จริงเราใกล้เคียงกับชัยชนะแล้ว แต่ในช่วงนาทีท้ายๆเราป้องกันกันต่ำเกินไป เพราะว่าเราต้องการที่จะรักษาผลการแข่งขันไว้ให้ได้ เราทำสิ่งนี้ได้ดีขึ้นในเกมที่ออกไปเยือนฮอฟเฟนไฮม์ซึ่งเป็นเกมที่ต้องไปลงเตะกับทีมที่แข็งแกร่งมากๆ และหลังจากนั้นเราก็สร้างฟอร์มการเล่นขึ้นมาต่อจากเดิมในเกมกับพาเลซ ใช่ครับ เราไม่ได้ยิงประตูได้มาก แต่ประตูชี้ขาดนั้นก็นับว่าเป็นประตู
แล้วเราก็มาเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมกับฮอฟเฟนไฮม์ และวันนี้มันก็เป็นก้าวต่อไป และเราทำมันได้อีกครั้ง นั่นอาจจะเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ทีาสุดสำหรับเราในวันนี้ เราจะต้องเรียนรู้ว่าเราสามารถทำเรื่องแบบนี้ให้ได้ในทุกๆ 3-4 วัน เพราะไม่เช่นนั้นแล้วมันจะหมายถึงว่าเรามีปัญหาในช่วงฤดูกาล เราต้องการแสดงมันออกไปวันนี้ เราต้องการที่จะพิสูจน์ตัวเอง เราต้องการที่จะทำให้ถูกจุดตั้งแต่ครึ่งแรก เราต้องการที่จะแสดงความปราถนาของเราออกไป เราต้องการที่จะแสดงความกระหายของเราออกไป เราต้องการที่จะแสดงความทะเยอทะยานของเราออกไปกับทีมที่แข็งแกร่งมากๆ
คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าคุณจะสามารถเอาชนะในเกมได้ไหม แต่เราไม่ได้คิดถึงเรื่องของการเอาชนะในเกมเลย เรามองถึงเรื่องของฟอร์มการเล่นมากกว่า ฟอร์มการเล่นนั้นสมบูรณ์แบบ และผลการแข่งขันนี้คือผลลัพธ์จากฟอร์มนั้น"
(โจ โกเมซ เล่นเป็นยังไงมั่งครับ?)
"ดีครับ สำคัญกับเรามากนะ ผมมองเห็นฟอร์มการเล่นเฉพาะตัวที่ยอดเยี่ยมมากๆจาก 11 ผู้เล่นตัวจริงในวันนี้ แม้แต่แดเนียลที่ลงมาทีหลังก็ยังทำประตูได้เลย แน่นอนว่า มิลลี่ (มิลเนอร์) ก็ด้วยที่สำคัญเอามากๆ และมาร์โก ก็ทำหน้าที่ของตนเอง ดังนั้นมันจึงเจ๋ง เราต้องการอะไรแบบนี้ โจต้องการเวลาที่จะกลับมาอยู่ในฟอร์ม เจารู้มันดีที่สุด เขายังหนุ่ม เขาไม่ได้แก่ไปกว่าเทรนท์ผู้ที่ซึ่งอาจจะได้ลงเล่นในเกมนี้ แต่อย่างไรก็ตามเพราะว่าเรามีตัวเลือกในวันนี้เราจึฃสามรถให้เขานั้นพักได้ในวันนี้ โจนั้นยอดเยี่ยมมากที่เราได้เห็นฟอร์มแบบนี้ แข็งแกร่งมากๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่มากๆ ผมกล่าวไปหลังเกมว่า 'ยินดีต้อนรับเข้าสู่ฟุตบอลของผู้ใหญ่' เพราะฟอร์มแบบนั้นมันคือการเล่นฟุตบอลของผู้ใหญ่ 100% เป็นการเข้าปะทะที่แข็งแกร่งรุนแรงมากแต่ไม่มีการเข้าปะทะที่น่าเกลียดเลย แค่หนักและใช้ร่างกายที่มีเท่านั้น มันเยี่ยมมาก"
"ดีครับ สำคัญกับเรามากนะ ผมมองเห็นฟอร์มการเล่นเฉพาะตัวที่ยอดเยี่ยมมากๆจาก 11 ผู้เล่นตัวจริงในวันนี้ แม้แต่แดเนียลที่ลงมาทีหลังก็ยังทำประตูได้เลย แน่นอนว่า มิลลี่ (มิลเนอร์) ก็ด้วยที่สำคัญเอามากๆ และมาร์โก ก็ทำหน้าที่ของตนเอง ดังนั้นมันจึงเจ๋ง เราต้องการอะไรแบบนี้ โจต้องการเวลาที่จะกลับมาอยู่ในฟอร์ม เจารู้มันดีที่สุด เขายังหนุ่ม เขาไม่ได้แก่ไปกว่าเทรนท์ผู้ที่ซึ่งอาจจะได้ลงเล่นในเกมนี้ แต่อย่างไรก็ตามเพราะว่าเรามีตัวเลือกในวันนี้เราจึฃสามรถให้เขานั้นพักได้ในวันนี้ โจนั้นยอดเยี่ยมมากที่เราได้เห็นฟอร์มแบบนี้ แข็งแกร่งมากๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่มากๆ ผมกล่าวไปหลังเกมว่า 'ยินดีต้อนรับเข้าสู่ฟุตบอลของผู้ใหญ่' เพราะฟอร์มแบบนั้นมันคือการเล่นฟุตบอลของผู้ใหญ่ 100% เป็นการเข้าปะทะที่แข็งแกร่งรุนแรงมากแต่ไม่มีการเข้าปะทะที่น่าเกลียดเลย แค่หนักและใช้ร่างกายที่มีเท่านั้น มันเยี่ยมมาก"
(เป็นอย่างไรบ้างที่มีฟอร์มที่ดีแม้จะขาดนักเตะตัวหลักไป?) "ผมไม่เคยเป็นแบบนี้ หรือ คิดอะไรแบบนี้ สิ่งที่เราทำกันอยู่นั้นจะต้องแยกเป็นอิสระจากนักเตะ หากคุณขาดนักเตะลงเล่นมากเกินไปคุณก็ไม่อาจมีโอกาสได้เลย ไม่มีใครสามารถทำทีมให้มีการเล่นได้แบบเดิม แต่เราไม่เคยคิดเกี่ยวกับว่าเราขาดใครไปบ้างแม้กระทั่งตอนที่เรารู้ว่าปัญหามันจะใหญ่ขนาดไหนเมื่อคุณไม่มีนักเตะคุณภาพอย่างนี้อยู่ในทีม ผมไม่ได้พอใจไปกับมันนะ อันที่จริง ผมคาดหวังว่ามันจะเกิดขึ้นไว้อยู่แล้ว มันเป็นงานของเราที่จะต้องทำนี่ครับ คุณจะไม่เคยได้ยินว่าเราไม่สามารถเอาผลลัพธ์มาได้เพราะว่าไอ้นู่นไอ้นี่ มันหนักหน่วงครับ มันหนักหน่วงกันหมดและเราทุกคนรู้ดีว่าเราไม่อาจจะส่งรายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงๆซ้ำๆต่อเนื่อง 5-6 เดือน ดังนั้นเราจึงต้องการโอกาสที่จะเปลี่ยนนักเตะในตำแหน่งต่างๆ วันนี้เราตัดสินใจที่จะจัดทีมลงในมุมมองของจังหวะการเล่นและความมั่นใจ ผมคิดหนักจริงๆเกี่ยวกับ 11 ผู้เล่นตัวจริง ว่าผมจะสามารถเปลี่ยนใครออกได้บ้าง และเราน่าจะมีโอกาสที่จะทำแบบนั้น แต่พวกเขานั้นดูดีกันมากหลังจากเกมกับฮอฟเฟนไฮม์ในช่วงการซ้อม ผมก็เลยคิดว่า 'เอาละ ไปลองกันอีกสักตั้ง' และชัดเจนเลยว่ามันเวิร์ค"
(ทำไมถึงพัก มินโญเลต์?)
ความหนักหน่วงของผู้รักษาประตูนั้นแตกต่างออกไป มันไม่ใช่ความหนักหน่วงทางร่างกาย มันเป็นความหนักหน่วงทางสภาพจิตใจ เราสร้างสถานการณ์ก่อนเริ่มฤดูกาลที่เรากล่าวว่าเราต้องการที่จะผู้รักษาประตูที่ดีจริงๆ 3 คน และนั่นคือสถานการณ์ของเราตอนนี้ นั่นหมายถึงว่าคุณไม่อาจจะจัดการกับมันได้อย่างที่ปกติคุณทำเมื่อคุณมีนักเตะเบอร์ 3 ที่ชัดเจน นักเตะเบอร์ 2 ที่ชัดเจน และใช่ครับ ซิมงเป็นนักเตะเบอร์ 1 อย่างชัดเจน แต่สำหรับนักเตะคนอื่นแล้วมันไม่ชัดเจนว่าเป็นเบอร์ 2 หรือ เบอร์ 3 แต่พวกเขาก็เป็นผู้รักษาประตูที่แข็งแกร่ง
ความหนักหน่วงของผู้รักษาประตูนั้นแตกต่างออกไป มันไม่ใช่ความหนักหน่วงทางร่างกาย มันเป็นความหนักหน่วงทางสภาพจิตใจ เราสร้างสถานการณ์ก่อนเริ่มฤดูกาลที่เรากล่าวว่าเราต้องการที่จะผู้รักษาประตูที่ดีจริงๆ 3 คน และนั่นคือสถานการณ์ของเราตอนนี้ นั่นหมายถึงว่าคุณไม่อาจจะจัดการกับมันได้อย่างที่ปกติคุณทำเมื่อคุณมีนักเตะเบอร์ 3 ที่ชัดเจน นักเตะเบอร์ 2 ที่ชัดเจน และใช่ครับ ซิมงเป็นนักเตะเบอร์ 1 อย่างชัดเจน แต่สำหรับนักเตะคนอื่นแล้วมันไม่ชัดเจนว่าเป็นเบอร์ 2 หรือ เบอร์ 3 แต่พวกเขาก็เป็นผู้รักษาประตูที่แข็งแกร่ง
ซิมงทำได้ดีมากๆจนถึงตอนนี้ในฤดูกาลนี้ และเป็นเขาที่เอาชนะการแข่งขันในช่วงพรีซีซันถ้าหากอยากให้ผมพูดน่ะนะ เขาเป็นเครื่องจักร เขามักจะไปอยู่ตรงนั้นเสมอ เขาแน่นมาก และก็วางใจได้จริงๆ และนักเตะคนอื่นมีปัญหานิดหน่อยเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บและอะไรแบบนั้น ดังนั้นเขาจึงเอาชนะในการแข่งขันไป ผมบอกกับ ซิ (ย่อซะ 😅 มาจากซิมงครับ) ไปเมื่อวานและมันก็ไม่ใช่ว่าเขาตะกอดผมและกล่าวว่า 'ขอบคุณครับบอสส์ นั่นคือสิ่งที่ผมคิดไว้เลยว่าเราควรจะทำ' แต่ผมอยากที่จะทำแบบนั้นและผมอยากให้เขาได้พักและต้องการที่จะส่งลอริสลงไปในสนาม
เขามีอะไรหลายอย่างนะครับ เขาเล่นฟุตบอลได้เท่มาก แต่ใช่ครับบางทีอาจจะเท่เกินไปหน่อยและรอสถานการณ์ต่างๆนานไป แต่คุณก็ได้ยินในสนามว่าเราทุกคนจะต้องเรียนรู้และคุ้นเคยกับการเล่นฟุตบอลในสถานการณ์ที่ถูกปิดล้อม อย่างตอนเอมเร่ได้บอลแล้วมีนักเตะอยู่ข้างๆแล้วแฟนบอลก็ 'โอ้ววว (เสียงตื่นตระหนก)' แฟนบอลนั้นเซอร์ไพรส์เล็กน้อยได้แต่นักเตะไม่ควรที่จะต้องเซอร์ไพรส์เพราะว่าการจัดระเบียบการยืน คุณจะต้องเล่นในพื้นที่ที่ถูกปิดล้อมในฐานะผู้รักษาประตู และในฐานะผู้เล่นเอาท์ฟิลด์ เขาทำมันได้ดีวันนี้ ผมมีความสุขดีครับ"
(ใครจะเล่นเป็นผู้รักษาประตูในเกมกับแมนซิตี้หลังจากพักเบรคทีมชาติ?) "100% ว่าหากไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซิมง จะลงในเกมหน้า ..คู่ต่อสู้ของเรานี่ใครนะครับ ซิตี้สินะ"
(คุณคาดหวังว่าจะเป็นวันที่ยุ่งๆในช่วงไม่กี่วันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะหรือเปล่าครับ?) "เดี๋ยวเราก็ได้เห็นกันครับ ...ไม่มีเกมเตะนี่ ผมหวังว่าคุณจะสามารถมีความสุขในช่วงเวลาอีก 5-6 วันข้างหน้าได้กับข่าวลือต่างๆอะไรแบบนั้น ผมไม่ได้อยากที่จะเจอมัน แต่มันเป็นส่วนนึงของเกมเกมนี้"
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น